top of page

ความหมายของการตัดต่อ

Heading 1

การตัดต่อหรือว่าการลำดับภาพเป็นขั้นตอนที่ 3 ในกระบวนการโปรดักชั่นคือโพสต์โปรดักชั่น ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายสำหรับการปรุงแต่งงานให้กลมกล่อม ชวนลิ้มรสต่อคนดู แต่อย่าเข้าใจผิดว่าห้องตัดต่อเป็นที่สร้างเรื่อง เรื่องหรือ สตอรี่ คือการคิดมาก่อนการเข้าห้องตัดทีนี้การเป็นนักตัดต่อนั้นจะต้องมีความรู้ความเข้าใจใน 2 ส่วน คือในส่วนของเครื่องตัด และในส่วนของความเข้าใจในการตัดซึ่งผมคิดว่าสัดส่วนความสำคัญนั้น อยู่ระหว่าง 70/30 เปอร์เซ็นส่วนของเครื่องตัดนั้น(หมายรวมถึงอุปกรณ์ทั้งหลายทั้ง ฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์) ผมให้ความสำคัญแค่ 30 เปอร์เซ็นเท่านั้น เพราะเครื่องมือเหล่านี้มันก็เป็นเพียงเครื่องสนองความคิดของเราเท่านั้น การเรียนรู้ว่าปุ่มไหนกดอย่างไร กดเพื่ออะไร แค่นั้นไม่สามารถเรียกว่าเป็นนักตัดต่อได้เครื่องตัดแพงๆราคาหลายแสนหรือหลายล้าน มันก็ไม่ได้ทำให้คุณภาพงานนั้นดีขึ้น คุณภาพที่ไม่ได้หมายถึงความคมชัดของภาพ แต่ผมพูดถึงคุณภาพของเรื่องราวที่ถูกเล่าผ่านสายผู้ชมต่างหาก ทำให้ส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับการตัดต่อ ที่ผมให้ความสำคัญถึง 70 เปอร์เซ็น ก็คือความเข้าใจในหลักการตัดต่อนั่นเองซึ่งความเข้าใจนั้นมันอาจฟังดูนามธรรมไปหน่อย แต่หากว่าผ่านการทำ ดู แล้วทำ แล้วก็ดู ยิ่งมากเท่าใหร่ประสบการณ์ก็จะสอนว่าแบบไหนดีหรือไม่ดีสำหรับวันนี้เป็นครั้งแรก ก็ขอคัดลอกตำราที่เขาสอนๆกันมา ให้อ่านกันดูก่อน เพื่อเป็นเริ่มต้นสำหรับการทำความเข้าใจในหลักการของการตัดต่อ เพื่อที่ในตอนต่อๆไปจะได้ นำทั้งตัวอย่างและประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง ตามที่ความสามารถอันน้อยนิดที่มีจะเล่าให้ฟังได้

การตัดต่อ  คือ  การเชื่อมระหว่างช็อต 2 ช็อต โดยใช้ 1 ใน 3 รูปแบบ ดังนี้

1.การตัดชนภาพ The Cut คือ การตัดภาพชนกันจากช็อตหนึ่งต่อตรงเข้ากับอีกช็อตหนึ่ง วิธีนี้คนดูจะไม่ทันสังเกตเห็น
2.การผสมภาพ The Mix หรือ The Dissolve เป็นการค่อย ๆ เปลี่ยนภาพจากช็อตหนึ่งไปยังอีกช็อตหนึ่ง โดยภาพจะเหลื่อมกัน และคนดูสามารถมองเห็นได้

3.การเลือนภาพ The Fade เป็นการเชื่อมภาพที่คนดูสามารถเห็นได้ มี 2 แบบ คือ การเลือนภาพเข้า fade in คือการเริ่มภาพจากดำแล้วค่อย ๆ ปรากฏภาพซ้อนสว่างขึ้น มักใช้สำหรับการเปิดเรื่อง การเลือนภาพออก fade out คือการที่ภาพในท้ายช็อตค่อย ๆ มืดดำสนิท มักใช้สำหรับการปิดเรื่องตอนจบ
 
ในการตัดต่อ ควรคำนึงถึงความรู้เบื้องต้น 6 ประการดังนี้

1.แรงจูงใจ Motivation ในการตัดต่อ ไม่ว่าจะการ cut, mix หรือ fade ควรมีเหตุผลที่ดีหรือมีแรงจูงใจเสมอ ซึ่งแรงจูงใจนี้อาจเป็นภาพ เสียง หรือทั้งสองอย่างผสมกันก็ได้ ในส่วนของภาพอาจเป็นการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้นักแสดงจะแสดงเพียงเล็กน้อย เช่น การขยับร่างกายหรือขยับส่วนของหน้าตา สำหรับเสียงอาจเป็นเสียงใดเสียงหนึ่ง เช่น เสียงเคาะประตู หรือเสียงโทรศัพท์ดัง หรืออาจเป็นเสียงที่ไม่ปรากฏภาพในฉาก (off scene)

2.ข้อมูล Information ข้อมูลในที่นี้คือข้อมูลที่เป็นภาพ ช็อตใหม่ หมายถึงข้อมูลใหม่ คือถ้าไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ในช็อตนั้น ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องนำมาตัดต่อ ไม่ว่าภาพจะมีความงดงามเพียงไร ก็ควรที่จะเป็นข้อมูลภาพที่แตกต่างจากช็อตที่แล้ว ยิ่งมีข้อมูลภาพที่คนดูเห็นและเข้าใจมากขึ้น ผู้ชมก็ยิ่งได้รับข้อมูลและมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น 
เป็นหน้าที่ของคนตัดที่จะนำข้อมูลภาพมาร้อยให้มากที่สุดโดยไม่เป็นการยัดเยียดให้คนดู

  • Facebook Social Icon
  • Twitter Social Icon
  • Google+ Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Pinterest Social Icon
  • Instagram Social Icon

ผู้พันา:พร้ษ์ สุ

bottom of page